BMW 740Li Pure Excellence รถหรู..นำเข้าแบบทั้งคัน

02/04/2019 admin

  BMW 740Li Pure Excellence รถหรู..นำเข้าแบบทั้งคัน | Apple Luxury Car โชว์รูมรถหรูมือสอง

BMW Thailand เปิดตัว BMW 7-Series โฉมใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ของตระกูลนี้ รหัสตัวถัง G12 และถือเป็น
ที่สุดของ 7-Series เท่าที่เราเคยผลิตมา และเป็นมาตรฐานใหม่ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใน Segment นี้ ที่มาพร้อมสมรรถนะและประสิทธิภาพใหม่แห่งการขับขี่

BMW 740Li Pure Excellence | Apple Luxury Car โชว์รูมรถหรูมือสอง

นับเป็นครั้งแรกที่คอนเซ็ปต์ Carbon Core นำมาใช้ใน BMW 7-Series โฉมใหม่ โดยเราได้นำหลักการของคาร์บอน
ไฟเบอร์ที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 มาใช้กับ BMW 7-Series โฉมใหม่นี้ การผสมผสานที่ก้าวล้ำของการใช้วัสดุต่างๆ
ทำให้ยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ทรงพลังสูงสุดและน้ำหนักเบาที่สุด แต่ยังคงความเป็นรถซีดานที่หรูหราและทรงประสิทธิ
ภาพที่สุดด้วยเช่นกัน สร้างสรรค์ความเป็นยานยนต์ระดับ “ First Class” สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง จะได้รับความรู้สึกพิเศษ
จากการต้อนรับในแบบ Exclusive อีกด้วย

รถยนต์รุ่นแฟลกชิปที่มาพร้อมสมรรถนะล้ำหน้าและรูปลักษณ์ดึงดูดสะกดทุกสายตา

BMW 740Li (G12) เป็นรุ่นฐานล้อยาว Long Wheel Based มีขนาดความยาวของตัวรถ 5,238 มิลลิเมตร กว้าง 1,902 มิลลิเมตร สูง 1,485 มิลลิเมตร และเป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ BMW เท่าที่เคยผลิตมา มาพร้อมกับล้อขนาดล้อ ขนาด 20 นิ้ว รัดกับยาง Runflat เพื่อเพิ่มสมรรถนะ และความปลอดภัยในการขับขี่ และยังเป็นรถยนต์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้ฟีเจอร์ Air Flap Control ซึ่งจะทำงานเมื่อระบบต้องการ ระบายความร้อนโดยนอกจากจะพัฒนาสมรรถนะด้านแอโรไดนามิกส์ให้กับรถแล้ว ยังเพิ่มความสะดุดตาให้กับส่วนหน้าของรถด้วยจำนวนซี่ของไตคู่บีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้น ไฟหน้ายังได้รับการออกแบบขยายไปจนถึงขอบใน ในขณะที่ไฟทรงกลมคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลถูกจัดวางอย่างพอดี ช่วยทั้งการใช้งาน และดึงดูดสายตา นอกจากนี้ ยังเป็น LED โดยมีให้เลือกแบบ Laser Light ด้วยเช่นกัน โดยไฟหน้าแบบ Laser Light สามารถสังเกตได้จากแถบสีฟ้าตรงกลางของดวงไฟ

BMW Laser Light : ความแตกต่างที่เหนือกว่าในเซ็กเมนต์รถซีดานหรู

อีกฟีเจอร์ใหม่ที่แตกต่างจากรถยนต์ซีดานในเซ็กเมนต์เดียวกันคือ BMW Laserlight ซึ่งคล้ายกับที่ใช้ใน BMW i8
ด้วยเทคโนโลยี BMW Selective Beam ช่วยลดความพร่ามัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
เพิ่มเติมจากไฟ LED ในรุ่นมาตรฐาน ไฟหน้าแบบเลเซอร์นี้มีแสงสีขาวและให้ความสว่างได้ในระยะ 600 เมตร สำหรับไฟสูง
ซึ่งเป็นระยะที่ไกลกว่าความสว่างจากไฟหน้าแบบ LED ถึง 2 เท่าและให้ความเข้มของแสงมากกว่าไฟหน้าแบบ LED ถึง 4 เท่า

แถมยังมีไฟตัดหมอกแบบ LED ระบบปรับการทํางานไฟสูงอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าและใบปัดน้ําฝนทํางานอัตโนมัติ กระจกมองข้างฝั่งคนขับตัดแสงอัตโนมัติ

จนไปถึงเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง กล้องแสดงภาพด้านหลังอีกด้วย ในด้านระบายอากาศเสีย ตัวนี้เลือกใช้ในลักษณะท่อไอเสียคู่ ซึ่งออกแบบได้มาให้เข้ากับรูปลักษณ์รถยนต์

ช่วงล่างแบบถุงลมและระบบควบคุมความนุ่มของโช้คอัพที่มาในรุ่นมาตรฐาน

ด้วยช่วงล่างระบบถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้าและหลัง และระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า BMW 740Li โฉมใหม่
ช่วงล่างแบบถุงลมซึ่งทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อัดลมเข้าไปเก็บในถังลม ทำให้สามารถรักษาระดับของรถไว้ได้
แม้ในเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน ระดับความสูงของรถจะถูกปรับให้คงที่อยู่เสมอไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ก็ตาม
และเนื่องจากในแต่ละล้อ มีตัวจ่ายลมที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ จึงสามารถปรับระดับของรถให้เสถียรได้ แม้ว่าน้ำหนัก
ในการบรรทุกของล้อแต่ละข้างจะไม่เท่ากันก็ตาม

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับการควบคุมระดับนี้ได้ด้วยตนเองทั้งในระหว่างการขับขี่บนท้องถนน หรือแม้แต่การขับ
ในพื้นที่ต่างระดับ เช่น ในอาคารจอดรถที่มีความลาดชัน การปรับระดับจะกลับสู่ค่ามาตรฐานโดยอัตโนมัติที่ความเร็ว
35 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเมื่ออยู่ในโหมด SPORT และใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ ระบบจะปรับระดับความสูงของตัวรถ
ลงมา 10 มิลลิเมตรโดยอัตโนมัติ

BMW EfficientLightweight : โครงสร้างแบบ Carbon Core
ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้มากถึง 130 กิโลกรัม

เทคโนโลยี BMW EfficientLightweight ช่วยลดน้ำหนักรวมของ BMW 7-Series โฉมใหม่นี้ได้สูงสุดถึง 130 กิโลกรัม
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยโครงสร้างตัวถังที่ผลิตด้วย Carbon Core ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ใน BMW i8
ทำให้ BMW 7-Series เป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซ็กเมนต์นี้ที่ใช้โครงสร้างผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP)
ผสมผสานกับโครงสร้างเหล็กและอะลูมิเนียม ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงของห้องโดยสาร ในขณะเดียวกัน
ก็ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้อย่างมาก

 

ด้านภายในของ BMW 740Li Pure Excellence

ภายในตกแต่งแบบ Pure Excellence ตกแต่งด้วยไม้ลาย ash grain chestnut เบาะนั่งตอนหลังแบบ Comfort ปรับไฟฟ้า เบาะนั่งหนังแท้ Nappa พร้อมระบบจําตําแหน่งเบาะนั่งตอนหน้าและหลังแบบปรับอุ่นได้ มีระบบระบายอากาศสําหรับเบาะนั่งตอนหน้า-ตอนหลัง ระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว ชุดไฟเพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ฟังก์ชั่นนวดผ่อนคลายสําหรับผู้โดยสารตอนหลัง ม่านบังแดดกระจกหลังไฟฟ้า ม่านบังแดดประตูหลังไฟฟ้า แบบมี wooden inlay ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบสปอร์ต

จอภาพแบบสัมผัสขนาด 10.25″  ระบบแผนที่นําทางรุ่น Professional ฟังก์ชั่นสั่งงานระบบ iDrive ด้วยการเคลื่อนไหวมือ (Hand gesture)

 

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน

 

สมรรถนะและความสะดวกสบายของการขับขี่ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการใช้งาน
ในทุกสภาพด้วยมาตรฐานสูงสุด

โดยในรุ่นมาตรฐานได้รวมช่วงล่างแบบถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้าและหลังและระบบควบคุมความนุ่มนวล
ของโช้คอัพเอาไว้ด้วย นวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้มอบอิสระแห่งการขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกใช้งาน
โหมดที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานใน Sport Mode หรือ Eco Pro Mode เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
หรือเลือกใช้ ADAPTIVE mode ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านสวิทซ์ควบคุมแบบใหม่ การตั้งค่าเหล่านี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบ
ในการขับขี่และประเภทของเส้นทาง มาพร้อมกับ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic Sport  เบรกมือและระบบห้ามล้อไฟฟ้า

การสั่งการด้วยระบบสัมผัสและการเคลื่อนไหวมือ (Gesture Control)

ใน All new BMW 740Li ใช้หน้าจอควบคุม iDrive ในระบบสัมผัสเป็นครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ
ในแบบเดิมแล้ว ระบบสัมผัสแบบใหม่นี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการและควบคุมจากการ
สัมผัสหน้าจอได้เช่นกัน

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ของการใช้งานร่วมกับระบบ iDrive คือ การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ
หรือ BMW Gesture Control ซึ่งถูกนำมาใช้งานเป็นครั้งแรก เซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบ
ควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร ซึ่งใช้งานได้อย่างง่าย เช่น การปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์

BMW Touch Command : เชื่อมต่อรถกับโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์

นวัตกรรมของระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชั่นซึ่งใช้ใน BMW 740Li โฉมใหม่นั้น มาในรูปแบบของ BMW Touch Command
หรือควบคุมสั่งการด้วยระบบสัมผัสผ่านหน้าจอแท็บเล็ตพกพาขนาด 7 นิ้ว สามารถใช้งานได้จากทั้งภายในและนอกตัวรถ
ซึ่งสามารถปรับและควบคุมระบบต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นการปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึง
ระบบความบันเทิงต่างๆ ระบบนำทาง และระบบการสื่อสาร และยังสามารถเล่นไฟล์เพลงและวิดีโอ รวมถึงใช้เป็น
เกมส์คอนโซลได้อีกด้วย

เหนือระดับแห่งการโดยสารด้วย Ambient Light หลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama
และไฟ Welcome Light Carpet

BMW 740Li โฉมใหม่ที่ได้รับการออกแบบแสงไฟอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะไฟ Welcome Light Carpet ที่ให้ความรู้สึก
Exclusive ด้วยเส้นนำสายตารอบตัวรถประหนึ่งการปูพรมต้อนรับ อีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษที่มาพร้อมกันคือ
ไฟ Ambient Light ที่ช่วยสร้างบรรยากาศความหรูหราให้กับห้องโดยสาร

และยังมาพร้อมกับหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama ช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนท้องฟ้าที่ประดับประดา
ไปด้วยดวงดาวหลากสี เป็นอีกหนึ่งความพิเศษเหนือระดับรถยนต์ซีดานหรูในเซ็กเมนต์เดียวกัน

เครื่องยนต์ของ BMW 740Li Pure Excellence

ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,998 ซีซี. เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,380-5,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตรชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรชั่วโมงใน 5.6 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 14.3 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 166 กรัม/กิโลเมตร

แต่ถ้าหากคุณผู้อ่านสนใจอยากเป็นเจ้าของแล้วละก็ทาง Apple Luxury Car ขอนำเสนอกับเจ้า BMW 740Li Pure Excellence สุดหรูคันนี้ซึ่งราคาร่วงมาจากมือหนึ่งออกศูนย์เป็นอย่างมาก ด้วยราคาเพียงแค่ 4,390,000 บาท เท่านั้น ท่านผู้อ่านก็จะได้รถคันนี้ไปใช้งาน หรือสะสมเป็นคอลเลคชั่นส่วนตัวกันได้เลย

เข้าชม BMW 740Li Pure Excellence มือสอง คลิกเลย!!!

สามารถติดต่อได้ที่ Apple Luxury Car โชว์รูมรถมือสอง

Tel : 080-24-11111

Line : darunee4043

ขอขอบคุณข้อมูลจาก – headlightmag.com

 

 

Tags : , , , , , , , ,
แสดงความคิดเห็น